หน้าเว็บ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

ภาพกิจกรรม

ด้านสิ่งแวดล้อม








ด้านวิชาการ

























 ด้านนันทนาการ












ด้านคุณธรรม จริยธรรม





















ด้านกีฬา









ข่าวมลพิษ


     ข่าวของน.ส.จิราวรรณ  ฟองคำ 034
                    
                    ควันปิ้งย่างก่อโอโซนมลพิษ กทม.ยันอันตราย"ปอดพัง"-ชี้"คนขาย"สัมผัสพิษมากสุด



               นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหามลพิษทางอากาศในเขตเมืองกำลังเป็นปัญหาที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ จากผลการศึกษาขององค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า การปิ้งย่างเนื้อสัตว์บนเปลวไฟโดยตรงจะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ฝุ่นขนาดเล็ก และสารอินทรีย์ระเหยง่าย สอดคล้องกับการศึกษาแหล่งที่มาสำคัญของสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศของกรุงเทพฯพบว่า การปิ้งย่างอาหารด้วยเตาถ่าน เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของสารอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งสารอินทรีย์ระเหยง่ายเป็นสารตั้งต้นของโอโซนซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศ ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ มีผลต่อการทำงานของปอด เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคปอดอักเสบเรื้อรัง

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพฯมีผู้ขายอาหารปิ้งย่างเนื้อสัตว์บนเปลวไฟโดยตรงเป็นจำนวนมาก ซึ่ง กทม.ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และมีความพยายามควบคุมมลพิษทางอากาศจากการปิ้งย่างมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ขายอาหารปิ้งย่างให้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและสัมผัสกับมลพิษนี้มากที่สุด และมีบทบาทสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าว และในปี 2555 กทม.อยู่ระหว่างสำรวจความคิดเห็นผู้ขายอาหารปิ้งที่ผ่านการอบรมแล้ว เพื่อนำผลสำรวจดังกล่าวมาใช้เป็นแนวทางในการควบคุมมลพิษทางอากาศจากการปิ้งย่าง

นายวัลลภกล่าวอีกว่า สำหรับในปีงบ ประมาณ 2556 กทม.จะศึกษาเพื่อออกแบบอุปกรณ์ปิ้งย่างที่สามารถลดมลพิษทางอากาศจากการปิ้งย่างเพื่อเป็นต้นแบบ และหากได้อุปกรณ์ที่เหมาะสมแล้ว กทม.จะมีการอบรมและเผยแพร่อุปกรณ์ดังกล่าวให้กับผู้ขายอาหารปิ้งย่าง เนื่องจากการควบคุมมลพิษจากการปิ้งย่างนี้ ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ขายอาหารปิ้งย่าง ขณะเดียวกันขอให้ชาวกรุงเทพฯร่วมสนับสนุนการควบคุมมลพิษดังกล่าว โดยการเลือกซื้อหรือรับประทานอาหารที่มีการปิ้งย่างด้วยอุปกรณ์ที่ไร้ควันมลพิษ.


ข่าวของนายอภิชาติ  ศาตรเพ็ชร์ 011...

                                                         เชื่อหรือไม่!งานเอ็กซ์โปทำให้อากาศเซี่ยงไฮ้แย่ลง

เซี่ยงไฮ้ต้องทนทุกข์กับสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในรอบ5ปีหลังจากรัฐบาลท้องถิ่นยกเลิกการควบคุมมลภาวะในสถานที่จัดงานเวิร์ลด์เอ็กซ์โป 2010 ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่  25  พ.ย.ว่า สื่อประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ รายงานว่าชาวเซี่ยงไฮ้ต้องทรมานกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 ปีจากการที่รัฐบาลท้องถิ่นยกเลิกการควบคุมมลภาวะในสถานที่จัดงานเวิร์ลด์เอ็กซ์โป ตามรายงานของหนังสือพิมพ์รายวันของจีน   ดัชนีมลภาวะทางอากาศในเซี่ยงไฮ้มีค่า มากกว่า  100 ซึ่งตัวเลขระดับนี้ตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของจีนถือว่า  "มีมลภาวะเบาบาง"โดยในเดือนนี้มีวันที่ค่ามลภาวะดังกล่าวกว่า วันแล้ว

หากทางการจีนเรียกค่ามลภาวะเกิน100ว่าแย่ที่สุดในรอบ 5 ปี แต่ในวันที่ 13พ.ย.  ค่าดัชนีดังกล่าวทะลุ 370 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา   โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าอากาศมีสภาพ"มลภาวะอย่างหนัก"

หน่วยงานตรวจสอบสภาพอากาศของเมืองก็ได้กล่าวโทษพายุทรายที่พัดมาจากทางตอนเหนือของจีนว่า  เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณภาพอากาศเลวร้าย

อย่างไรก็ตามมลพิษทางอากาศนี้ก็เกิดขึ้นพร้อมๆกับการยุติโครงการก่อสร้างในช่วงงานเวิร์ลด์เอ็กซ์โปซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. อีกทั้งการห้ามเผาฟางที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศที่ออกโดยรัฐบาลท้องถิ่นก็จะหมดอายุพร้อมกับวันสิ้นสุดงานเอ็กซ์โปด้วย.                                               


ข่าวของน.ส.กรรณิการ์  ชูพงษ์ 004

                                         นักวิทย์ฯผู้ดีเผย อากาศเป็นพิษ ทำคนอายุสั้นลง

นักวิจัยอังกฤษเปิดเผยว่า เพราะมลภาวะทางอากาศ ทำให้ผู้คนกว่า 200,000 คน ในอังกฤษต้องอายุสั้นลงถึง 2 ปี...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ถึงผลการศึกษาโดยคณะกรรมการการแพทย์ด้านผลกระทบของมลพิษทางอากาศ (COMEAP:Committee on the Medical Effects of Air Pollutants) ได้ลองผลสรุปออกมาเป็นครั้งแรกว่า ผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศโดยฝีมือมนุษย์ เช่น การจราจร การผลิตกระแสไฟฟ้าและอุตสาหกรรมการผลิต เป็นเหตุให้มนุษย์สูญเสียอายุขัยถึง 340,000 ปี ในปี 2008
แต่แทนที่ผลกระทบจะกระจายไปสู่ประชากรทั้งหมด คณะกรรมการกลับคาดว่า ปัญหาสุขภาพนี้จะเกิดกับผู้คนอย่างมากแค่ 200,000 คนหรือคิดเป็น 0.3% ของประชาการทั้งหมดเท่านั้น
รายงานสรุปผลเผยว่า ผลกระทบของมลภาวะทางอากาศ มีส่วนเชื่อมโยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ นั่นคือเหตุผลที่ชี้ว่ามลพิษทางอากาศอาจทำให้เกิดผลทำให้มีคนตายเร็วขึ้นถึง 200,000 คน ในปี2008 ซึ่งแต่ละคนมีอายุสั้นลงโดยเฉลี่ยคนละประมาณ 2 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเป็นหลัก แต่ผลสรุปนี้ยังคงเป็นแค่การคาดคะเนเท่านั้น
รายงานยังเปิดเผยด้วยว่า มลพิษทางอากาศมีแนวโน้มทำให้ทารกแรกเกิดมีอายุสั้นลงโดยเฉลี่ย 6 เดือน
ดร.ไมค์ แนบตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ มูลนิธิโรคหัวใจของอังกฤษ กล่าวว่า "พวกเราประมาทผลกระทบของมลพิษทางอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะ มลพิษนั้นไร้สีไร้กลิ่น และวันใดที่ระดับมลพิษทางอากาศสูงขึ้น ก็จะมีคนประสบปัญหาโรคหัวใจจนต้องเข้่รัาบการรักษาที่โรงพยาบาลมากขึ้น".

                 

ข่าวของนายฉัตรชัย  วุฒิพันธ์ 027

                                อนามัยโลกเผย เมืองหลวงมองโกเลียอากาศสกปรกสุดในโลก

องค์การอนามัยโลกเผย กรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย เป็นเมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดของโลก โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินและการเผาฟืน  ตามมาด้วยเมืองหลวงของมาดากัสการ์และคูเวต...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยอ้างข้อมูลจากรายงานขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่า กรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย ถือเป็นเมืองที่มีคุณภาพทางอากาศต่ำที่สุดของโลก
รายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เมืองหลวงของมองโกเลีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของโลกนั้น ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากการเผาไหม้ของถ่านหินและการเผาฝืนเกือบตลอดทั้งปี ส่งผลให้ค่ามลพิษทางอากาศของกรุงอูลานบาตอร์สูงถึง 2.5-63 พีเอ็ม (particulate matter) อันเป็นสัดส่วนมลพิษทางอากาศที่สูงที่สุดของโลก สอดคล้องกับรายงานของ "เดลี่ไฟแนนซ์" ที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งระบุว่า กรุงอูลานบาตอร์ที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 1.3 ล้านคน ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีอัตราส่วนการปล่อยมลภาวะทางอากาศชนิดต่างๆ สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า นอกเหนือจากกรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลียแล้ว   เมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุด 10 แห่งของโลกจากการสำรวจล่าสุดยังประกอบด้วย กรุงอันตานานาริโว ของมาดากัสการ์, กรุงคูเวตซิตี ของคูเวต, เมืองเม็กซิกาลี ในเม็กซิโก, กรุงอักกราของกานา, เมืองซาเบอร์เซ ในโปแลนด์, กรุงดาการ์ของเซเนกัล, เมืองคราคอฟของโปแลนด์, เมืองโตริโนของอิตาลี และกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู  โดยเมืองต่างๆเหล่านี้มีอัตราส่วนของมลพิษทางอากาศอยู่ระหว่าง 2.5-59 พีเอ็มถึง 2.5- 34.21 พีเอ็มตามลำดับ.


ข่าวของนายประชิล  โสภากุล 040

                                                 หมอกควันยังคลุม2จังหวัดภาคเหนือ
                       พบ 2 จังหวัดภาคเหนือยังประสบปัญหามลพิษหมอกควันอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลต่อสุขภาพมาก ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนลดและควบคุมการเผาในที่โล่ง
ตรวจสอบสถานการณ์หมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ ยังพบปัญหามลพิษทางอากาศมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วัดได้ 285 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 399 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้สภาพอากาศโดยรอบพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด มีผลต่อสุขภาพของประชาชนอย่างไรก็ตาม คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพมาก กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการลดและควบคุมการเผาในที่โล่ง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดการเผาหญ้าริมทางและพื้นที่ป่า อีกทั้งประชาชนต้องร่วมมืองดเผาขยะและเศษวัสดุการเกษตร คาดว่าจะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันได้ดีขึ้น.


ข่าวของนายธิติสรณ์  ปานชื่น 003

 หมอกควันมลพิษถล่มลำปางอากาศเสียหนักในรอบ 30 ปี
             เมื่อวันที่25 ก.พ.55 ที่ผ่านมา พื้นที่ในจังหวัดลำปางก็เกิดปัญหาหมอกควันเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเกินคาด ระดับค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองในอากาศสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนมืดสลัวไปแทบทั้งเมือง รถราที่วิ่งในถนนต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อให้รถที่วิ่งสวนมาได้เห็น สำนักงานการประปาอำเภอแม่เมาะวัดค่าได้ 210 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ วัดได้ 206 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ศาลหลักเมืองจังหวัดลำปาง วัดได้ที่ 173. ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสั่งกำชับห้ามเผาป่า เผาไร่นาอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนดำเนินการตามกฎหมายทันที มีการเข้มงวดในการควบคุมการเผาในที่โล่ง เนื่องจากในขณะนี้จังหวัดลำปางมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM10 สูงกว่าค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
และขณะนี้เกิดหมอกควันแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ครอบคุลมทุกพื้นที่ของ จ.ลำปางอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยประกอบด้วย การงดเผาขยะมูลฝอย การงดเผากิ่งไม้ในชุมชน และการห้ามเผาวัชพืชริมทางอย่างเด็ดขาด รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดไฟป่า และเตรียมความพร้อมในการดำเนินมาตรการลดการแพร่กระจายของฝุ่นละออง ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษลำปางได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ ซึ่งจากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง โดยปกติจะต้องมีค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัม สำหรับวันนี้กรมควบคุมมลพิษวัดได้ 51.9-194.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงมีผล กระทบต่อสุขภาพ






วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ภาวะมลพิษทางอากาศของใจกลางเมืองหลวง


              จากวิดิโอ เป็นภาพรวมของการใช้ชีวิตประจำวันของคนกรุง และสาเหตุปัญหาของมลพิษทางอากาศ เพราะเมืองหลวงเป็นแหล่งรวมของธุรกิจ มีคนพลุกพล่าน มีการสัญจรอย่างแออัด จึงเป็นศูนย์รวมของมลพิษทางอากาศ

ช่วยต่ออายุให้โลก ^_^


ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ


ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ
1. เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยเฉพาะระบบหายใจ มะเร็งผิวหนัง ระบบประสาท และอาจสะสมในเนื้อเยื่อร่างกาย
2. สารพิษที่ระบายออกสู่บรรยากาศ บางชนิดคงตัวอยู่ในบรรยากาศได้เป็นเวลานาน และแพร่กระจายออกไปได้ไกล บางชนิดเป็นปฏิกิริยาต่อกันและเกิดเป็นสารใหม่ที่เป็นอันตราย

3. ทำให้เกิดฝนกรด โดยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่มีสารกำมะถันเจือปน เมื่อทำปฏิกิริยารวมตัวกับน้ำและกลั่นตัวเป็นฝน จะมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งก่อสร้าง
4. ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ออกไซด์ของไนโตรเจน โอโซน และสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC) เมื่อลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ จะปกคลุมมิให้รังสีความร้อนจากผิวโลกระบายขึ้นสู่บรรยากาศระดับสูงขึ้นได้ ทำให้เกิดการสะสมความร้อนของผิวโลก  

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไดอารี่ความดี

ไดอารี่ความดี ของกลุ่ม



ข่าวมลพิษ

 หนึ่งในสาเหตุสำคัญของมลพิษอากาศและเสียง คือ การจราจร หากลดปริมาณรถยนต์บนถนนลงได้ ปัญหาก็จะลดลงด้วย ซึ่ง สสส. ร่วมกับสมาคมนักผังเมืองไทย จัดสำ รวจทางเท้าเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นแนวทางปรับปรุงทาง เท้าให้เหมาะกับการเดิน คาดว่าจะส่งผลสรุปให้กรุงเทพมหานครได้ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งสนับสนุนการออกกำลังกาย ด้วยการเดิน การใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดี และช่วยลดปัญหาสิ่งแวด ล้อมไปพร้อมกันด้วย 
        ด้าน ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร คนใดพูดถึงนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างชัดเจน ด้วยการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และลดภาวะโลกร้อน และไม่มีใครกล้าพูดว่าประชาชนต้องทำอะไรบ้าง การเน้นนโยบายด้านจราจรด้วยการสร้างรถไฟฟ้าเพิ่ม ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ใช้งบประมาณสูง อีกทั้งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง หากมองว่าปัญหาจราจรคือปริมาณรถและความคล่องตัว ยังมีวิธีแก้อีกหลายวิธี ที่สำคัญคือ ลดปริมาณการใช้รถ ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะจริงๆ ใช้จักรยาน และการเดินให้มากขึ้น 

        ส่วน ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการบริหารแผน สสส. กล่าวว่า การทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ มิติหนึ่ง คือ คุณภาพอากาศที่เหมาะสม ซึ่งการจัดการระบบขนส่งมวลชน ให้ความสะดวกสบาย ประชาชนใช้รถส่วนตัวน้อยลง หันไปใช้ระบบขนส่งมวลชน ส่งเสริมการเดิน การใช้จักรยาน ที่ผู้บริหารกทม.ต้องสร้างความพร้อม ไม่ใช่แค่รณรงค์ขี่จักรยานแค่วันเทศกาล หรือขีดเส้นทางจักรยานไว้บนถนน แต่ต้องคิดเรื่องความปลอดภัย มีความต่อเนื่อง การลดมลพิษ ลดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่จึงจะเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งไม่ต้องคิดใหญ่เสมอไป แต่ต้องคิดแบบจุลภาคแล้วค่อยสานต่อเป็นมหภาค 

        "การรณรงค์และเตรียมความพร้อมให้ประชาชนหันมาใช้จักรยาน หรือการเดิน เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งวันที่ 21 กันยายนนี้ กรุงเทพมหานคร ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย และสสส. จะจัดกิจกรรมวันปลอดรถ คาร์ ฟรี เดย์ 2008 ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง มีผู้เข้าร่วมกว่า 3 พันคน และจะร่วมกันแปรขบวนจักรยานเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมพร้อมๆ กันอีก 40 จังหวัด" ศ.ดร.ธงชัย กล่าว